ไอคิโด สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ ศิลปะการต่อสู้ ญี่ปุ่น aikido คืออะไร

ไอคิโด สิ่งที่ทำให้คำว่า ไอคิโด มีความสำคัญในปัจจุบัน

ไอคิโด เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีพื้นฐานและหลักการที่แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ อย่างมากระหว่างศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น อากิโดมีลักษณะเฉพาะของมันเองและไม่เน้นการใช้ความแรงเพื่อทำลายศัตรู แต่เน้นการใช้ความยืดหยุ่นและการควบคุมของกล้ามเนื้อและพลาสม่าตัวเองในการควบคุมศัตรูและเปลี่ยนเส้นทางการโจมตีของศัตรู นี่คือบางข้อสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับอากิโด:

• ลักษณะการต่อสู้

อากิโดเน้นการเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นและอ่อนโยน โดยการใช้การหลีกเลี่ยงการโจมตีของศัตรูและการทำให้ศัตรูสูญเสียสมดุล เทคนิคการทำให้ศัตรูล้มลงบนพื้น หรือทำให้ศัตรูไม่สามารถโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นตัวอย่างของการทำในอากิโด.

• หลักการทางจิต

อากิโดเน้นการพัฒนาจิตในการฝึกซ้อม ศิลปะนี้สอนให้ผู้ฝึกเรียนมีความสงบและสมดุลในจิตใจ และการใช้ความรู้สึกและการคิดในการเผชิญกับสถานการณ์ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ อากิโดยังสอนให้ผู้ฝึกเรียนมีความเอาใจใส่และเคารพผู้อื่น.

• ความสำคัญของศีลธรรม

อากิโดเน้นการรักษาศีลธรรมและการเคารพต่อครูและผู้ฝึกเรียนที่มาก่อน มีการใช้คำนำหน้า “Sensei” สำหรับครู และการทำพิธีตักบาตรเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในอากิโด.

• การฝึก

การฝึกอากิโดเน้นการทำเรื่องซ้ำๆ และฝึกซ้อมในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถใกล้เคียง ผู้ฝึกจะฝึกการหลีกเลี่ยงการโจมตีและการต่อสู้โดยใช้เทคนิคและการหมุนร่างกายให้เกิดความสมดุล.

• วิวัฒนาการ

การเรียนรู้อากิโดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน เราจะเห็นว่าผู้ฝึกจะดูเหมือนว่าจะได้รับการพัฒนาทางกายและจิตใจเรื่อยๆ ตามเวลา.อากิโดเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีความเฉพาะเจาะจงและแตกต่างจากศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ ของญี่ปุ่น เนื่องจากการเน้นที่การควบคุมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแทนการใช้ความแรงต่อสู้ นี่เป็นที่ยอมรับของอากิโดในวงกว้างในโลกของศิลปะการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวใน

โยชินคัน-อากิโด คืออะไร

โยชินคัน-อากิโด (Yoshinkan aikido) เป็นหนึ่งในสาขาของศิลปะการต่อสู้อากิโด สาขานี้ถูกสร้างขึ้นโดยชัยโยชิ ฮายาชิ (Gozo Shioda) ซึ่งเป็นศิลปินและอาจารย์ที่ได้รับการอบรมจากผู้สร้างของอากิโดเอง มอริซู อะอิะชิ (Morihei Ueshiba) โดยโยชินคัน-อากิโดมีความแตกต่างและลักษณะเฉพาะที่แยกตัวเองออกจากสาขาอื่นของอากิโด. การฝึกซ้อมในโยชินคัน-อากิโดมีลักษณะที่เข้มข้นและเป็นระบบมากขึ้น ผู้ฝึกต้องปฏิบัติศาสตร์ตามรูปแบบและท่าทางที่ถูกกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด การฝึกซ้อมต้องปฏิบัติศาสตร์และเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ในลำดับที่ได้รับการกำหนด ด้วยความเน้นที่การควบคุมของศัตรูและการใช้ความยืดหยุ่นและการตระเตรียมตัวในการป้องกันตัว เช่นเดียวกับการใช้พลังงานของศัตรูในการโจมตี.

 

ไอคิโด แตกต่างจาก โยชินคัน-อากิโด  อย่างไร

อากิโด และโยชินคัน-อากิโด เป็นสองสาขาหรือรูปแบบของศิลปะการต่อสู้อากิโด  โยชินคัน-อากิโดมักถูกเรียกว่า “ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นระบบ” เนื่องจากมีโครงสร้างการฝึกและการเรียนรู้ที่เป็นระบบอย่างชัดเจน ผู้เรียนจะได้รับการฝึกในการดำเนินการตามรูปแบบที่หนึ่งถึงหนึ่งกับคู่ต่อสู้ของพวกเขา การเรียนรู้ในโยชินคัน-อากิโดเน้นการควบคุมและการใช้เทคนิคการต่อสู้ในการป้องกันตัว และแนวคิดพื้นฐานของการใช้พลังงานของศัตรูยังคงเป็นหัวใจของโยชินคัน-อากิโด. โดยมีความแตกต่างในแง่บางด้าน ต่อไปนี้คือความแตกต่างระหว่างอากิโดและโยชินคัน-อากิโด

1.ต้นกำเนิด 

• อากิโด: อากิโดถูกสร้างขึ้นโดยมอริซู  (Morihei Ueshiba) ในปฏิบัติศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ของเขา และมีฐานเดิมต้นจากการศึกษาศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ เช่น จูจิตสึ (Jujutsu) และ อิแอิจิจูจิตสึ (Aiki-Jujutsu) ในยุคต้นๆ.

• โยชินคัน-อากิโด: โยชินคัน-อากิโดเป็นสาขาของอากิโดที่ถูกสร้างขึ้นโดยชัยโยชิ ฮายาชิ (Gozo Shioda) ซึ่งเป็นหนึ่งในนักฝึกและอาจารย์แรกของมอริซู โยชินคัน-อากิโดมีการเน้นที่เทคนิคและการฝึกซ้อมที่เข้มข้นมากกว่าอากิโดในรูปแบบทั่วไป.

2.ความสัมพันธ์กับศิลปะการต่อสู้อื่น 

• อากิโด: อากิโดมีพื้นฐานและบางส่วนมาจากศิลปะการต่อสู้แบบต่าง ๆ เช่น จูจิตสึ และมีการผสมผสานศิลปะการต่อสู้และภาษาพิเศษที่เรียกว่า “กิโกะนิทัทิอิ” (Ki no Kenkyukai) ในบางกรณี.
• โยชินคัน-อากิโด: โยชินคัน-อากิโดมีรูปแบบการฝึกที่เน้นเรียนรู้และฝึกเทคนิคการต่อสู้อย่างเข้มข้น โยชินคัน-อากิโดจึงมีลักษณะที่เป็นระบบมากขึ้นและมีการประเมินผลการฝึกอย่างเคร่งครัด.

3.ลักษณะการฝึก 

• การฝึกอากิโดในรูปแบบทั่วไปมีการเน้นที่การเคลื่อนไหวที่มีความราบรื่นและอ่อนโยน และการใช้ความยืดหยุ่นและการควบคุมของกล้ามเนื้อในการควบคุมศัตรูและเปลี่ยนเส้นทางการโจมตีของศัตรู.

• โยชินคัน-อากิโด: โยชินคัน-อากิโดมีการฝึกซ้อมที่เข้มข้นและเน้นที่เทคนิคการต่อสู้มากกว่า มีการใช้รูปแบบและท่าทางที่ถูกกำหนดไว้เพื่อให้ผู้เรียนฝึกในลักษณะที่เป็นระบบมากขึ้น.

โยชินคัง-อากิโด เป็นหนึ่งในรูปแบบของ Aikido ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่นที่เน้นการใช้ความรู้สึกและการควบคุมของผู้ฝึกในการรับมือกับการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นคุณลักษณะและทักษะที่เกี่ยวข้องกับ โยชินคัง-ไอกิโด อาจประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้:

• ท่าทางและการเคลื่อนไหว: โยชินคัง-ไอกิโด เน้นการทำงานกับท่าทางที่ถูกจัดระเบียบอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีรากฐานมาจากการใช้เทคนิคและท่าทางที่ถูกเรียนรู้อย่างเข้มงวดและถูกกำหนดอย่างชัดเจน
• การควบคุมท่าทางของศัตรู: โยชินคัง-ไอกิโด มุ่งเน้นการควบคุมการโจมตีของศัตรูโดยใช้ท่าทางและการควบคุมที่ดี เป้าหมายคือการทำให้ศัตรูสูญเสียสมาธิและควบคุมเมื่อถูกทำให้เสียสมาธิ
• เทคนิคการรบกวนและหลบหลีก: โยชินคัง-ไอกิโด มีการฝึกให้เรียนรู้เทคนิคการรบกวนและการหลบหลีกในการรับมือกับการโจมตี ซึ่งอาจรวมถึงการหลบหลีกด้วยการหลอมตัวหรือการใช้การหมุนเพื่อหลบหลีก
• การใช้พลังศัตรู: โยชินคัง-ไอกิโด มุ่งเน้นการใช้พลังของศัตรูและการเรียนรู้ที่จะใช้มันเพื่อควบคุมและกำจัดการโจมตี นี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้เทคนิคที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน
• การฝึกความสม่ำเสมอ: โยชินคัง-ไอกิโด จะต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะและความชำนาญในการรับมือกับการโจมตี การฝึกอาจประกอบด้วยท่าทางพื้นฐาน, การฝึกรายการเทคนิค, และการฝึกกับคู่ต่อสู้
• การฝึกกับคู่ต่อสู้: โยชินคัง-ไอกิโด มุ่งเน้นการฝึกกับคู่ต่อสู้เพื่อปรับปรุงทักษะในการรับมือกับการโจมตีจริง การฝึกกับคู่ต่อสู้เป็นการประลองและฝึกซ้อมที่เข้มงวด
• การประพฤติตนและจริยธรรม: โยชินคัง-ไอกิโด เน้นการฝึกให้มีจริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้ทักษะการต่อสู้ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นให้นักฝึกพัฒนาความเป็นผู้นำและความเข้าใจในการใช้พลังในทางที่เหมาะสม

 

ประวัติความเป็นมาของศิลปะการต่อสู้ ไอกิโด

ที่กำเนิดการต่อสู้ ไอกิโด เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น และมีผู้สร้างและผู้ร่วมพัฒนาหลายคน ศิลปะนี้มีพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ ของญี่ปุ่น เช่น จูจิตสึ (Jujutsu) และอิแอิจิจูจิตสึ (Aiki-Jujutsu) โดยมอริซู อะอิะชิ (Morihei Ueshiba) เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและสร้างระบบในรูปที่เรารู้จักในปัจจุบัน.

พื้นฐานและประวัติศาสตร์ของศิลปะการต่อสู้ ไอคิโด

กำเนิดและพัฒนา มีลักษณะเฉพาะของมันเองและพัฒนาขึ้นในยุคต้น ๆ ของทศวรรษที่ 20 โดยมอริซู อะอิะชิ ที่ได้รับอิฐานมาจากการฝึกศิลปะการต่อสู้ต่าง ๆ และประสบการณ์ทางศิลปะที่หลากหลาย สูตรความสำเร็จ พื้นฐานอยู่ในหลักการของ “อายิโคอิ” (Ai-ki-do) ซึ่งหมายถึง “การรวมอำนาจของจิตใจและความรู้สึก” หรือ “การรวมกันของความรู้สึกและความจิตใจ” ซึ่งเป็นหลักการที่ถูกนำมาใช้ในการควบคุมการโจมตีของศัตรูและใช้พลังงานของศัตรูในการทำให้เกิดสภาวะที่มีประสิทธิภาพ. การพัฒนาและการสร้างระบบ ในช่วงทศวรรษ 20 มอริซู อะอิะชิ ได้สร้างระบบและเทคนิคขึ้นมาเป็นระบบที่มีโครงสร้างและเป็นระบบมากขึ้น แนวคิดการใช้ความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป้องกันและผู้โจมตีได้รับการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์. ในทศวรรษที่ 20 ได้รับการแพร่หลายไปยังทั่วโลกและกลายเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่นิยมมากในปัจจุบัน แม้ว่ามันจะมีประวัติความเป็นมาที่เป็นสิ่งที่พิเศษและอันเป็นรากฐานในศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นแต่มันกลายเป็นประโยชน์ที่ต้องการเรียนรู้เรื่องการควบคุมและการใช้พลังในการต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันและการป้องกันตัว.

 

ศิลปะการต่อสู้  ไอคิโด้ คือ ความลึกลับของการใช้แขนและขาในการต่อสู้

aikido คือ หนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่มีกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและเน้นการใช้ความรู้สึกและการควบคุมกำลังแทนการใช้กำลังต่อสู้เพื่อทำลายศัตรู ในบทความนี้เราจะสำรวจลักษณะและทักษะ รวมถึงการใช้แขนและขาในการต่อสู้และเทคนิคการต่อสู้ที่สำคัญของมัน

1. ลักษณะและทักษะของศิลปะการต่อสู้:  ศิลปะการต่อสู้ที่เน้นการร่วมมือและการใช้ความรู้สึกเพื่อทำลายศัตรู โดยไม่ต้องใช้กำลังต่อสู้อย่างรุนแรง ลักษณะมีดังนี้:

• • การร่วมมือ: ใช้การร่วมมือกับศัตรูโดยการเปลี่ยนทิศทางและความพลังของศัตรูให้กับตนเอง ศิลปะนี้เน้นการหลบหลีกและการเปลี่ยนเส้นทางของการโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การควบคุม: สอนการควบคุมความรุนแรงและความพลังของศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวและการปรับปรุงท่าทาง ผู้ฝึกจะเรียนรู้วิธีที่จะทำให้ศัตรูสูญเสียสมดุลและความมั่นใจในการโจมตี
  • การใช้เทคนิค: มีเทคนิคและท่าทางที่เฉพาะเจาะจงที่สามารถใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ และในการป้องกันตนเอง รูปแบบท่าทางเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการทำลายและมีความสวยงาม

2. การใช้แขนและขาในการต่อสู้: มีการใช้แขนและขาอย่างเป็นพิเศษในการต่อสู้ โดยมีลักษณะดังนี้:

• • การใช้แขน: ใช้แขนเป็นท่อนบนของร่างกายในการหลบหลีกและควบคุมการโจมตีของศัตรู การปรับปรุงท่าทางและการควบคุมของแขนเป็นสำคัญในการสร้างการโจมตีและป้องกัน
  • การใช้ขา: การใช้ขาใน มักเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสมดุลและความเสถียรในการต่อสู้ ขามีบทบาทในการเปลี่ยนทิศทางและการควบคุมของศัตรู

3. เทคนิคการต่อสู้ที่สำคัญ

• • Irimi: การเคลื่อนไหวเข้าสู่พื้นที่ของศัตรูเป็นส่วนสำคัญ ท่าทางนี้ช่วยให้คุณสามารถหลบหลีกการโจมตีและเข้าสู่ระยะใกล้กับศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Tenkan: การหมุนรอบตัวเองเพื่อเปลี่ยนทิศทางและหลบหลีกการโจมตี การหมุนเป็นเทคนิคที่สำคัญ เพื่อสร้างการโจมตีและป้องกัน
  • Kokyu Nage: การใช้ความรู้สึกและการหยิบจับเพื่อทำลายความมั่นใจและสมดุลของศัตรู นี่เป็นเทคนิคที่มุ่งเน้นการควบคุมและเปิดโอกาสในการโจมตี

ศิลปะการต่อสู้ที่สร้างการร่วมมือและควบคุมโดยไม่ใช้กำลังต่อสู้อย่างรุนแรง การใช้แขนและขาในการต่อสู้เป็นส่วนสำคัญของเทคนิค Aikido ซึ่งช่วยให้ผู้ปฏิบัติศิลปะนี้สามารถป้องกันตนเองและควบคุมสัตว์ร้ายในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและความสวยงามในท่าทางการต่อสู้ใน Aikido ยังเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณควรสำรวจและฝึกฝนเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านนี้ได้อย่างเต็มที่และเติบโตใน Aikido ของคุณไปอีกขั้นตอนหนึ่งว่างงานของประเทศที่มีความสวยงามทางวัฒนธรรมนี้

 

ไอคิโด คือ อะไรความหมายและแนวคิดของศิลปะการต่อสู้

ศิลปะการต่อสู้อากิโด เป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นในปฏิบัติศาสตร์ซึ่งเน้นการใช้ความรู้สึกและการควบคุมตนเองเพื่อทำลายศัตรู แนวคิดหลัก คือการหลีกเลี่ยงการใช้กำลังต่อสู้อย่างรุนแรงและการทำร้ายศัตรู แทนที่จะโจมตีตนเอง ศิลปะนี้เน้นการร่วมมือและการสร้างความสมดุลระหว่างตนเองและศัตรู มุ่งเน้นที่ความมั่นคงและความสงบในการต่อสู้

ไอคิโด คือ ศิลปะการต่อสู้ เป็นศิลปะแห่งการป้องกันและต่อต้าน

การต่อสู้ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการป้องกันตนเองและต่อต้านการโจมตี แต่มันไม่เพียงแค่เป็นการต่อสู้ร่างกายเท่านั้น ศิลปะนี้ยังเน้นการควบคุมอารมณ์และการทำงานร่วมกันของจิตใจและร่างกาย ผู้ปฏิบัติเรียนรู้วิธีการหลีกเลี่ยงการโจมตีและการรับมือกับความขัดแย้งอย่างสมดุลและความสงบ ศิลปะนี้สอนให้ผู้ปฏิบัติรู้จักใช้กำลังและความเสียสละเพื่อเพิ่มความสงบและความเข้มแข็งในตนเอง นอกจากนี้ยังสอนการใช้เทคนิคและท่าทางที่สามารถใช้ในสถานการณ์จราจรและการป้องกันตนเองในชีวิตประจำวัน

การพัฒนาสตรีในศิลปะการต่อสู้ ไอคิโด

ศิลปะการต่อสู้ที่เหมาะสำหรับทุกเพศและวัย ศิลปะนี้ไม่จำกัดเพศและไม่ใช่เพียงแค่ศิลปะการต่อสู้สำหรับชาย สตรีสามารถปฏิบัติ ได้เช่นกัน จะช่วยให้สตรีพัฒนาทักษะการป้องกันตนเองและเพิ่มความมั่นคงในสิ่งที่ทำ นอกจากนี้ยังสอนคุณมารยาทและความเอื้อเฟื้อในการจัดการกับความขัดแย้ง การพัฒนาตนเองในศิลปะการต่อสู้อากิโดจะช่วยให้สตรีมีความมั่นคงทั้งทางร่างกายและจิตใจในสถานการณ์ทั้งในและนอกศาสตร์ และช่วยให้พวกเธอเป็นบุคคลที่มีความสงบและมั่นคงในชีวิตประจำวันของพวกเขา

1.สิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้อากิโด

ศิลปะการต่อสู้อากิโดเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่น่าสนใจและมีความซับซ้อนทางร่างกายและจิตใจที่สูงมาก นอกจากข้อมูลที่ได้ระบุไว้ในบทความ สามารถเรียนรู้สิ่งต่อไปนี้เพิ่มเติมได้เลย

• ประวัติและกำเนิด: ถูกสร้างขึ้นโดยมอริ เยอะชิโร่ ออาอิแซะกิ ในช่วงปี 1920 และมีผลกระทบจากการศึกษาของเขาในศิลปะการต่อสู้ต่าง ๆ เช่น โจ๊กฟู และเก็นจิโตรุ-รู ศิลปะนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาและขยายตัวไปยังทั่วโลก
• หลักการและแนวคิด: มุ่งเน้นการร่วมมือและการควบคุมกำลัง การป้องกันตนเอง ไม่ใช่การต่อสู้แบบรุนแรง แต่เป็นการกำจัดการโจมตีโดยใช้ความสมดุลและความควบคุม

2.องค์การแข่งขันที่สำคัญในศิลปะการต่อสู้ ไอ คิ โด คือ อะไร

• สภากีฑาการอากิโดสากล (Aikikai Foundation): Aikikai Foundation เป็นองค์การหลักที่ควบคุมและสนับสนุนการศึกษา ทั่วโลก พระอาจารย์มอริ เยอะชิโร่ แห่งญี่ปุ่นเป็นประธานในองค์การนี้ ครอบครัวเยอะชิโร่เป็นผู้บริหารองค์การและดำเนินกิจกรรมทาง Aikido ในระดับโลก
• องค์การแข่งขัน: นอกเหนือจาก Aikikai Foundation ยังมีองค์การแข่งขัน Aikido ระดับประเทศและระดับโลกที่จัดการแข่งขัน Aikido อย่างเป็นทางการ การแข่งขันทั่วไปมักจะประกอบด้วยการสาธิตทางวิธีการต่อสู้และการประเมินทักษะ

3.การอบรมและการพัฒนาทักษะในศิลปะการต่อสู้อากิโด

• การฝึกซ้อม: การอบรม มักเริ่มต้นด้วยการฝึกท่าทางและเทคนิคพื้นฐาน ผู้ปฏิบัติจะฝึกการหลบหลีกและการรับมือกับการโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ การฝึกซ้อมเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความรู้สึกเพื่อพัฒนาทักษะ
• การพัฒนากำลังและความควบคุม: การปรับปรุงกำลังและความควบคุมตนเองเป็นส่วนสำคัญของการอบรม ผู้ปฏิบัติจะเรียนรู้วิธีการใช้แขนและขาในการควบคุมศัตรูและการสร้างความสมดุล
• การพัฒนาจิตใจ: การอบรม ไม่เพียงแค่เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ร่างกาย แต่ยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติพัฒนาจิตใจและสมาธิ การพัฒนาจิตใจเป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้ความมั่นคงและความสงบในการต่อสู้
• การเรียนรู้จากผู้สอนที่เชี่ยวชาญ: การเรียนรู้ ควรที่จะทำไปพร้อมกับการปฏิบัติในโดจัง หรือสถานที่ฝึกซ้อม โดยมีการแนะนำและสั่งการจากผู้สอนที่เชี่ยวชาญในศิลปะนี้

สรุปแล้ว

ความแตกต่างระหว่าง ไอคิโด ภาษาอังกฤษ และโยชินคัน-อากิโดอยู่ในการเน้นที่การฝึกและเทคนิคการต่อสู้ โยชินคัน-อากิโดมีลักษณะการฝึกที่เข้มข้นและระบบมากขึ้น ในขณะที่อากิโดในรูปแบบทั่วไปมีการเน้นที่การเคลื่อนไหวและควบคุมที่มีความราบรื่นมากกว่า.การอบรมและการพัฒนาทักษะ เป็นกระบวนการที่ยาวนานและทุ่มเทในการฝึกซ้อมและเรียนรู้ นอกจากการพัฒนาทักษะการต่อสู้ร่างกายและจิตใจแล้ว ยังช่วยสร้างความมั่นคงและความสงบในชีวิตประจำวันของผู้ปฏิบัติ และให้ความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของพวกเขา